Thursday, June 14, 2012

มะเร็งตับอ่อน

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับมะเร็งตับอ่อน

ระบาดวิทยาของโรค

- พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงเล็กน้อย

- พบในคนอายุมาก สองในสามของผู้ป่วยใหม่มีอายุมากกว่า 65 ปี

- พบในชนชาติผิวดำมากกว่าชนชาติผิวขาว

- พบชนิด adenocarcinoma มากที่สุด

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

ยังไม่พบสาเหตุของโรคที่ชัดเจนเช่นกัน มีปัจจัยบางอย่างที่น่าจะเกี่ยวข้อง เช่น

- การสูบบุหรี่ ซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ถึงสองเท่า

- การทานอาหารที่มี Nitrosarmine compounds ซึ่งพบว่ามีความเกี่ยวของในหนู

- ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งตับอ่อน

อาการและลักษณะที่ตรวจพบ

อาการทั่วไป ได้แก่ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด คลื่นไส้ ปวดท้อง เป็นต้น จะเห็นได้ว่าอาการเหล่านี้ไม่จำเพาะเจาะจงกับโรค ดังนั้นอาจทำให้การวินิจฉัยล่าช้าได้ ผู้ป่วยบางรายมีอาการตัวเหลืองตาเหลือง ซึ่งเกิดจากตัวก้อนกดทางเดินน้ำดีคลำถุงน้ำดีได้จากทางหน้าท้อง หรือ มีน้ำตาลในเลือดผิดปกติได้

การตรวจวินิจฉัยที่จำเป็น

1. การตรวจร่างกายทั่วไป

2. การเจาะตรวจเลือด เช่น ตรวจการทำงานของตับ, การตรวจ CA 19-9

3. การส่องกล้องทางหน้าท้องเพื่อช่วยวินิจฉัยขนาดและตำแหน่งของก้อน

4. การตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา

5. การทำเอกซเรย์เพื่อช่วยวินิจฉัยและบอกขอบเขตของโรค โดยการทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)

ที่ช่องท้องสามารถบอกถึงโอกาสการผ่าตัดได้สำเร็จ และการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง หรือ ตับได้

6. การทำ Endoscopic ultrasound สามารถช่วยในการวินิจฉัยโรคได้เช่นกัน

การรักษา

การผ่าตัด เป็นการรักษาหลักของมะเร็งชนิดนี้สำหรับตัวโรคที่ยังไม่มีการแพร่กระจาย ไปอวัยวะอื่นไม่มีการลุกลามเข้าไปยังเล้นเลือด Superior mesenteric and portal vein , ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถผ่าตัดได้ประโยชน์ของการผ่าตัดก็ยังมีหลายทาง เช่น การตัดชิ้นเนื้อเล็กๆ เพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยาต่อไป หรือการลดอาการเหลืองของผู้ป่วยที่เกิดจากก้อนกดทับทางเดินน้ำดี โดยการผ่าตัดที่เรียกว่า Choledochojejunostomy

การฉายแสง มีหลายวัตถุประสงค์ คือ

- การฉายรังสีก่อนผ่าตัด จุดประสงค์เพื่อลดขนาดของก้อนให้สามารถผ่าตัดได้ ซึ่งมีทั้งใช้ร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัดหรือฉายแสงเพียงอย่างเดียว

- การฉายแสงหลังผ่าตัด เพื่อเพิ่มอัตราการควบคุมตัวโรคเฉพาะที่และเพิ่มอัตรารอดชีวิตให้กับผู้ป่วย

- การฉายแสงตั้งแต่เบื้องต้น ซึ่งทำเมื่อไม่สามารถผ่าตัดได้ หรือ ผู้ป่วยไม่แข็งแรงเพียงพอ โดยมีทั้งการให้ยาเคมีบำบัดร่วมด้วย หรือฉายแสงอย่างเดียว

- การฉายแสงเพื่อบรรเทาอาการ (Palliative radiation)

การให้ยาเคมีบำบัด เป็นการรักษาร่วมกับรังสีดังที่กล่าวข้างต้น หรือให้เคมีบำบัด เพียงอย่างเดียวเสริมการรักษาโดยการผ่าตัดกรณีที่มะเร็งได้แพร่กระจายไปที่อวัยวะอื่นแล้ว การให้ยาเคมีบำบัดเพื่อประคับประคองตัวโรค (Palliative chemotherapy) มีบทบาทสำคัญ

No comments:

Post a Comment